มาโน่ โพกิ้ง อดีตโค้ชทีมชาติไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างรุนแรงเกี่ยวกับปัญหาของลีกฟุตบอลเวียดนาม หลังจากที่พาทีมกงอันฮานอยเสมอกับฮองลิน 0-0 ทำให้ทีมตกไปอยู่อันดับที่ 7 ของตารางในวีลีก โดยมาโน่ได้ใช้โอกาสนี้วิจารณ์คุณภาพของสนามแข่งขันที่ย่ำแย่ และโปรแกรมการแข่งขันที่ไม่มีมาตรฐาน โดยเปรียบเทียบกับลีกฟุตบอลไทยที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
มาโน่ได้โพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับปัญหาของลีกเวียดนาม โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง “Dead Time” ซึ่งเขาเปิดเผยว่าในทุก ๆ 57 นาที ของเกม จะมีเวลาที่เกมหยุดชะงักถึง 10 นาที ทำให้คุณภาพการแข่งขันด้อยลง นอกจากนี้ เขายังตั้งข้อสังเกตถึงสภาพสนามที่ไม่พร้อมใช้งาน โดยเปรียบเทียบสนามฮาติงกับทุ่งนา ทำให้ทีมต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นจากการใช้บอลสั้นเป็นบอลยาวเพื่อลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ
มาโน่ยังได้กล่าวถึงการบริหารจัดการของลีกเวียดนามว่าเน้นที่ผลการแข่งขันมากกว่าการพัฒนาคุณภาพเกม ซึ่งอาจทำให้ฟุตบอลเวียดนามไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ ทั้งนี้ เขายังสนับสนุนลีกไทย โดยยกย่องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการจัดการที่ดีกว่า
ในขณะเดียวกัน ลีกฟุตบอลไทยยังคงเป็นที่หนึ่งในอาเซียน โดยมีทีมจากไทยติดอันดับสูงสุดถึง 5 ทีม ในการจัดอันดับมูลค่าทีมที่ตีพิมพ์โดยเว็บไซต์ Transfer Market ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งและการพัฒนาของลีกไทยอย่างต่อเนื่อง
การวิจารณ์ครั้งนี้ของมาโน่ไม่เพียงแต่เป็นเสียงสะท้อนจากอดีตโค้ชทีมชาติไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระตุ้นให้วงการฟุตบอลเวียดนามต้องกลับมาทบทวนและพัฒนาตนเองอย่างจริงจัง หากต้องการยกระดับฟุตบอลให้เทียบเคียงกับลีกชั้นนำในภูมิภาคนี้.