ในวงการฟุตบอลอาเซียนช่วงนี้เกิดความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม ที่หลังจากคว้าแชมป์อาเซียน ก็ต้องเผชิญกับดราม่าภายในอย่างหนัก โดยเฉพาะเรื่องการดูแลนักเตะ บราซิลที่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ขณะที่นักเตะเวียดนามท้องถิ่นกลับได้รับการสนับสนุนที่น้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้แฟนบอลและสื่อในประเทศเริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ล่าสุด สมาคมฟุตบอลเวียดนามได้ตัดสินใจถอดชื่อเหงียนซวนเซิน นักเตะชาวบราซิล ออกจากทีมหลังจากที่ผลงานของสโมสรนำนดินตกต่ำไม่สามารถชนะใครในบ้านได้เลยใน 4 นัดที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญในทีมสตาฟฟ์โค้ช โดยผู้ช่วยโค้ชชาวเกาหลีใต้หลายคนได้ลาออกจากตำแหน่ง ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของทีมชาติในช่วงคัดเลือกเอเชียน คัพ ในขณะที่นักเตะไทยก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดยเอกนิต ปัญญา ยังคงได้รับโอกาสลงเล่นในเจลีกอย่างต่อเนื่อง และมีการอัปเดตเกี่ยวกับเอราวั กานิเย นักเตะลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส ที่ได้รับโอกาสซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่ของโอลิมปิกลียง การเปลี่ยนแปลงและปัญหาภายในทีมชาติและสโมสรในเวียดนาม สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่กำลังเผชิญในวงการฟุตบอลอาเซียน ในขณะที่ฟุตบอลไทยยังคงเดินหน้าอย่างมั่นคง โดยมีนักเตะที่พัฒนาศักยภาพและเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันในอนาคต.
ในวงการฟุตบอลไทยขณะนี้กำลังมีการพูดถึงเรื่อง “สองมาตรฐาน” อย่างร้อนแรง โดยเฉพาะในบริบทของการแข่งขันซีเกมส์ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศไทยในปลายปีนี้ ทีมชาติไทยในรุ่น U20 กำลังเตรียมตัวที่จะลงแข่งขัน แต่ผลสำรวจล่าสุดจาก KBU SP โพล กลับชี้ให้เห็นว่าแฟนบอลไทยส่วนใหญ่ไม่มั่นใจในโอกาสที่ทีมชาติไทยจะเข้ารอบ โดยมีถึง 31% ที่มองว่ามีโอกาสน้อยมากที่จะผ่านเข้ารอบ ในขณะเดียวกัน ทีมชาติเวียดนามกลับมีการเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการเรียกนักเตะลูกครึ่งเข้ามาเสริมทีม เช่น ซังเหงียน กองกลางชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม ที่มีความสูงถึง 190 เซนติเมตร ซึ่งนับว่าเป็นนักเตะที่น่าจับตามอง นอกจากนี้ยังมีนักเตะลูกครึ่งคนอื่น ๆ ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในซีเกมส์ครั้งนี้ ซึ่งไม่มีกฎเกณฑ์เกี่ยวกับโควต้าอายุเกิน ทำให้ทีมชาติเวียดนามมีโอกาสเสริมศักยภาพทีมได้อย่างเต็มที่ ความไม่พอใจของแฟนบอลเวียดนามก็เริ่มปรากฏขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับการสนับสนุนที่นักเตะลูกครึ่งได้รับ ในขณะที่นักเตะท้องถิ่นกลับไม่ค่อยได้รับผลตอบแทนที่สมสูง ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ถึงความไม่เป็นธรรมในวงการฟุตบอลเวียดนาม…
ในวงการฟุตบอลไทยขณะนี้กำลังมีการพูดถึงเรื่อง “สองมาตรฐาน” อย่างร้อนแรง โดยเฉพาะในบริบทของการแข่งขันซีเกมส์ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศไทยในปลายปีนี้ ทีมชาติไทยในรุ่น U20 กำลังเตรียมตัวที่จะลงแข่งขัน แต่ผลสำรวจล่าสุดจาก KBU SP โพล กลับชี้ให้เห็นว่าแฟนบอลไทยส่วนใหญ่ไม่มั่นใจในโอกาสที่ทีมชาติไทยจะเข้ารอบ โดยมีถึง 31% ที่มองว่ามีโอกาสน้อยมากที่จะผ่านเข้ารอบ ในขณะเดียวกัน ทีมชาติเวียดนามกลับมีการเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการเรียกนักเตะลูกครึ่งเข้ามาเสริมทีม เช่น ซังเหงียน กองกลางชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม ที่มีความสูงถึง 190 เซนติเมตร ซึ่งนับว่าเป็นนักเตะที่น่าจับตามอง นอกจากนี้ยังมีนักเตะลูกครึ่งคนอื่น ๆ ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในซีเกมส์ครั้งนี้ ซึ่งไม่มีกฎเกณฑ์เกี่ยวกับโควต้าอายุเกิน ทำให้ทีมชาติเวียดนามมีโอกาสเสริมศักยภาพทีมได้อย่างเต็มที่ ความไม่พอใจของแฟนบอลเวียดนามก็เริ่มปรากฏขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับการสนับสนุนที่นักเตะลูกครึ่งได้รับ ในขณะที่นักเตะท้องถิ่นกลับไม่ค่อยได้รับผลตอบแทนที่สมสูง ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ถึงความไม่เป็นธรรมในวงการฟุตบอลเวียดนาม…
ในช่วงนี้ ฟุตบอลไทยกำลังอยู่ในกระแสความสนใจ โดยเฉพาะฟอร์มการเล่นของนักเตะที่กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด หนึ่งในนั้นคือ “นิว ดุงก้า” หรือ “พ่อตุ๊ก” ที่ได้กล่าวถึงการพัฒนาฟอร์มการเล่นของนักเตะ โดยเฉพาะในรายชื่อที่จะเข้าร่วมทีมชาติไทยชุดใหญ่ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียรอบคัดเลือกในปีนี้ ซึ่งถือเป็นรายการที่มีความสำคัญรองจากฟุตบอลโลก พ่อตุ๊กได้ไปดูฟอร์มของนักเตะหลายคน และยืนยันว่ามีความน่าสนใจในตัว “ธนวัต ซึจิตถาวร” ที่สามารถสร้างมิติใหม่ในแดนกลาง เขามีสภาพร่างกายที่พร้อมและสามารถบัญชาเกมได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งนับเป็นข่าวดีสำหรับทีมชาติไทยที่กำลังมองหานักเตะที่มีความสามารถ ในขณะเดียวกัน “จู๊ด ซูนซับเบล” กองหน้าทีมชาติอังกฤษก็อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องพลิกโฉมตัวเองเพื่อกลับมามีฟอร์มดีในลีกสเปน หลังจากที่ถูกปล่อยยืมไปยัง “แอตแลนติก ซาลูน” สโมสรในดิวิชั่น 3 ของสเปน จู๊ดต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นให้เข้ากับลีกใหม่ ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่สำคัญในเส้นทางอาชีพของเขา ปัจจุบัน ทีมชาติไทย U20 กำลังเตรียมตัวสำหรับการแข่งขัน…